กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 15 มี.ค. 68
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของ "กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้งเจ็ด" (G7) มีกำหนดการจัดขึ้น ณ ชาร์เลอวัว เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา ในช่วงระหว่างวันที่ 12 – 14 มีนาคม 2568 โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม ที่ประชุมได้ทำการประกาศแถลงการณ์ร่วม เพื่อเน้นย้ำความสำคัญของการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน พร้อมทั้งแสดงจุดยืนต่อต้านความทะเยอทะยานในการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในปัจจุบัน ผ่านวิธีการข่มขู่ด้วยกำลังทหารและแรงกดดันในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนเรียกร้องให้สองฝั่งช่องแคบไต้หวันแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างมีความหมาย กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอแสดงความขอบคุณเป็นอย่างสูง สำหรับพลังสนับสนุนที่กลุ่มประเทศสมาชิก G7 มีต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม
แถลงการณ์ฉบับข้างต้นเน้นย้ำว่า กลุ่มประเทศสมาชิก G7 จะมุ่งมั่นในการปกป้องภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกที่เปี่ยมด้วยเสรีภาพ การเปิดกว้าง ความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคง ให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ที่จีนมุ่งยกระดับศักยภาพทางกลาโหม และการขยายฐานคลังอาวุธนิวเคลียร์อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง อีกทั้งยังเรียกร้องให้จีนยุติพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงและความสมบูรณ์ของระบอบประชาธิปไตยในนานาประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ยังระบุให้เห็นถึง นโยบายและแนวทางการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์นอกเหนือระบบการตลาด อาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางการผลิตที่มากเกินไป และการบิดเบือนกลไกการตลาด
นอกจากนี้ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของ "กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้งเจ็ด" (G7) ยังได้ประกาศเน้นย้ำความสำคัญของ “ความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองทางกิจการทะเล” (G7 Foreign Ministers Declaration on Maritime Security and Prosperity) ซึ่งครอบคลุมทั้งในสถานการณ์โครงสร้างพื้นฐานเชิงสาธารณูปโภค อย่างสายเคเบิลใต้ท้องทะเลถูกบ่อนทำลาย ตลอดจนมีความยินดีที่จะประสานความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม เสริมสร้างศักยภาพการฟื้นบำรุง และยกระดับความยืดหยุ่นของโครงสร้างพื้นฐาน
นับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ที่ได้มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G7 ขึ้น ณ เมืองคอร์นวอลล์แห่งอังกฤษ บรรดาประเทศสมาชิก G7 ต่างก็ได้แสดงจุดยืนเน้นย้ำการให้ความสำคัญและการสนับสนุนต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ผ่านการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูง และการประกาศแถลงการณ์หลังการประชุมร่วม ติดต่อกันมาเป็นจำนวนบ่อยครั้ง ในระยะเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา ไต้หวันในฐานะที่เป็นประเทศสำคัญในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก และเป็นส่วนหนึ่งในประชาคมโลกที่มีความรับผิดชอบ พวกเราจะมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศสมาชิก G7 และกลุ่มมิตรประเทศทั่วโลกในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมปกป้องเสรีภาพและการเปิดกว้างในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ควบคู่ไปกับการรักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎกติกาสากล รวมไปถึงค่านิยมสากลด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ ตลอดจนประสานความร่วมมือกันสรรสร้าง “ระบบห่วงโซ่อุปทานที่เป็นอิสระจากการพึ่งพาจีน” (Non – red Supply Chain) เพื่อยกระดับความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจในกลุ่มพันธมิตรแห่งประชาธิปไตย ให้เกิดความแข็งแกร่งยิ่งๆ ขึ้นไป