ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 30 เม.ย. 68
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 เมษายน 2568 หรือตรงกับช่วงเช้าในวันเดียวกันตามเขตเวลาตะวันออกของสหรัฐฯ รองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉิน ได้เข้าร่วมแสดงปาฐกถาผ่านการบันทึกวีดิทัศน์ล่วงหน้าใน “การประชุม Hill & Valley Forum” ของสหรัฐฯ โดยได้ชี้แจงถึงความสำคัญของไต้หวันที่มีต่ออนาคตของสหรัฐฯ ใน 3 มิติ ประกอบด้วย (1) ความมั่นคงของไต้หวันก็คือความมั่นคงระดับโลก (2) ไต้หวันสามารถช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูอุตสาหกรรมให้แก่สหรัฐฯ ได้ และ (3) ไต้หวัน – สหรัฐฯ จะร่วมกันเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
รองปธน.เซียวฯ กล่าวว่า ไต้หวันตั้งอยู่ในจุดเชื่อมโยงระหว่างการค้า เทคโนโลยีและการเมืองเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญระดับโลก เรื่องราวที่เกิดขึ้นในไต้หวันจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลกและอำนาจของโลกเสรี เนื่องด้วยไต้หวันมีศักยภาพข้อได้เปรียบในหลากหลายมิติ เมื่อนำมาผนวกเข้ากับข้อได้เปรียบของสหรัฐฯ ในด้านนวัตกรรมการออกแบบระบบและซอฟต์แวร์ จะสามารถก่อเกิดเป็นพันธมิตรอุตสาหกรรมที่จะนำไปสู่ประสิทธิผลที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว อีกทั้งจะมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ระบบนิเวศทางเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไต้หวัน ก็มีส่วนช่วยในการจัดตั้งแพลตฟอร์มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทันสมัยของสหรัฐฯ โดยรองปธน.เซียวฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายมุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนด้านการพัฒนาทางความมั่นคง อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี AI ระหว่างกันในเชิงลึก เพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นหลังมีศักยภาพในการปกป้องเสรีภาพ มิใช่เพียงแค่สืบสานแต่เพียงเท่านั้น
การแสดงปาฐกถาของรองปธน.เซียวฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ :
ความทรหดของไต้หวัน นอกจากจะเป็นรากฐานสำคัญด้านสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิกแล้ว หากคุณจับตาให้ความสำคัญกับการบรรลุสันติภาพด้วยศักยภาพ และต้องการจะปรับโครงสร้างรากฐานทางอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ตลอดจนหวังที่จะครองบทบาทผู้นำสำคัญในการแข่งขันทางเทคโนโลยีและ AI การเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนกับไต้หวันในขณะนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและเร่งด่วน
รองปธน.เซียวฯ ยังได้หยิบยกเหตุผล 3 ประการ เพื่อประกอบการชี้แจงว่า เหตุใดไต้หวันจึงมีความสำคัญต่อสหรัฐฯ :
ประการแรก ความมั่นคงของไต้หวันคือความมั่นคงของโลก ขณะนี้ พวกเรากำลังมุ่งเสริมสร้างความทรหด เพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศชาติ
ไต้หวันตั้งอยู่ในจุดเชื่อมโยงระหว่างการค้า เทคโนโลยีและการเมืองเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญระดับโลก เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในไต้หวัน จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลกรวมถึงอำนาจของโลกเสรี จึงเป็นเหตุผลที่ว่า เหตุใดเราจึงไม่ควรย่ำอยู่กับที่
ในปัจจุบัน ไต้หวันกำลังทุ่มทรัพยากรจำนวนมาก เพื่อพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศด้วยตนเอง ซึ่งนอกจากจะติดต่อขอซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐฯ แล้ว เรายังมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมกลาโหมภายในประเทศอย่างกระตือรือร้น เชื่อว่า ศักยภาพทางกลาโหมในประเทศจะสามารถช่วยเกื้อหนุนระบบความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ได้ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้พวกเรามีความแข็งแกร่งยืดหยุ่น กระชับว่องไว และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอน
นอกจากนี้ พวกเรายังยื่นเสนอแผนริเริ่มและแผนปฏิบัติการ “ความยืดหยุ่นในการปกป้องภาคประชาสังคม” ด้วยการผนึกกำลังกับภาคธุรกิจเอกชนและสังคมพลเรือน ในการจัดตั้งเครือข่ายความมั่นคงและความยืดหยุ่นที่ครอบคลุมสมบูรณ์ โดยพวกเราอาศัยเทคโนโลยีและระบบนิเวศทางอุตสาหกรรมการผลิต ในการตอบสนองต่อความต้องการด้านความมั่นคงแห่งชาติ และอยู่ระหว่างการพัฒนาศักยภาพการสกัดกั้น ในทิศทางนับตั้งแต่อากาศยานไร้คนขับ ชิ้นส่วนอะไหล่ขีปนาวุธ ไปจนถึงเรดาร์และเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่
อย่างไรก็ตาม การที่พวกเราสามารถสกัดกั้นภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะอาศัยศักยภาพของตนเองแล้ว ยังจำเป็นต้องอาศัยพลังจากหุ้นส่วนความร่วมมือ ซึ่งก็คือสาเหตุสำคัญที่พวกเราจำเป็นต้องเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีในเชิงลึกกับสหรัฐฯ
ประการที่สอง ไต้หวันสามารถช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูอุตสาหกรรมให้แก่สหรัฐฯ ได้
หากมองในแง่มุมที่กว้างขึ้น ไต้หวันสามารถช่วยผลักดันกระบวนการฟื้นฟูอุตสาหกรรมและการผลิตในสหรัฐฯ ได้ พวกเรานอกจากจะเป็นซัพพลายเออร์ที่ป้อนผลิตภัณฑ์สินค้าเข้าสู่ระบบห่วงโซ่อุปทานแล้ว ยังเป็นหุ้นส่วนด้านการผลิตที่สามารถเติมเต็มซึ่งกันและกันกับสหรัฐฯ ได้อย่างครอบคลุมอีกด้วย เนื่องด้วยไต้หวันมีศักยภาพทางเทคโนโลยีที่เป็นกุญแจสำคัญหลายรายการ อาทิ การผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ทางเทคโนโลยีขั้นสูง เครื่องมือจักรกลความแม่นยำสูง และกระบวนการผลิตรูปแบบอัตโนมัติที่มีการประยุกต์ใช้ตัวช่วยเทคโนโลยี AI รวมไปถึงระบบห่วงโซ่อุปทานที่สามารถพึ่งพาและเชื่อถือได้ เมื่อนำมาผนวกเข้ากับข้อได้เปรียบของสหรัฐฯ ในด้านนวัตกรรมการออกแบบระบบและซอฟต์แวร์ จะสามารถก่อเกิดเป็นพันธมิตรอุตสาหกรรมที่จะนำไปสู่ประสิทธิผลที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว
ประการสุดท้าย หากจะกล่าวถึงความสำเร็จของภาคอุตสาหกรรม สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ AI พวกเรามีอุดมการณ์ร่วมกันในการธำรงรักษาเสรีภาพ ควบคู่ไปกับการยกระดับความสามารถของภาคประชาชนด้วย AI ไต้หวันถือเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุดของสหรัฐฯ ในการพัฒนาไปสู่บทบาทผู้นำ AI
ไต้หวันมีระบบนิเวศทางเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะช่วยสร้างคุณูปการแก่สหรัฐฯ ในด้านการจัดตั้งแพลตฟอร์มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทันสมัย ที่ไว้รองรับความต้องการของผู้ประกอบการภาคธุรกิจแนวหน้าของสหรัฐฯ ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนให้กิจการมุ่งสู่การขยายตัวในทิศทางนวัตกรรม
ในทำนองเดียวกัน ผู้ประกอบการไต้หวันก็มุ่งเน้นความสำคัญไปที่การขยายโอกาสและการลงทุนกับหุ้นส่วนทาง AI ของสหรัฐฯ โดยรัฐบาลไต้หวันจะมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรลุเป้าหมายการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ เพื่อมุ่งสู่การลดทอนวิกฤตปัญหาการขาดดุลการค้า ตลอดจนร่วมสร้างยุคทองแห่งการพัฒนา AI ไปด้วยกัน