06/06/2025

Taiwan Today

การเมือง

ปธน.และรองปธน.ไต้หวัน ให้การต้อนรับ Ms. Tammy Duckworth สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ พร้อมด้วยคณะตัวแทน

29/05/2025
ปธน.และรองปธน.ไต้หวัน ให้การต้อนรับ Ms. Tammy Duckworth สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ พร้อมด้วยคณะตัวแทน (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 28 พ.ค. 68
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่  28 พฤษภาคม 2568 รองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉินได้ให้การต้อนรับ Ms. Tammy Duckworth สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ พร้อมด้วยคณะตัวแทน โดยรองปธน.เซียวฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อ Ms. Duckworth สำหรับการสนับสนุนความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ เสมอมาเป็นเวลายาวนาน พร้อมกล่าวว่า ไต้หวันให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างความร่วมมือทางอุตสาหกรรมกลาโหม ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจากอุตสาหกรรมกลาโหมเป็นหนึ่งใน “อุตสาหกรรมที่เชื่อถือได้ 5 รายการหลัก” ที่ยื่นเสนอโดยประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ โดยไต้หวันจะมุ่งพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศด้วยตนเอง ด้วยการยกระดับความมั่นคงและความทรหดในภาพรวม ผ่านเทคโนโลยีขั้นสูงที่ได้รับการคิดค้นขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง
 
ในด้านเศรษฐกิจ ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า มีผู้ประกอบการไต้หวันหลายรายที่ต้องการจะสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐฯ ในระยะยาวที่มีเสถียรภาพ และมีทิศทางการพัฒนาที่เป็นไปได้ โดยรองปธน.เซียวฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายเร่งเปิดการเจรจา เพื่อบรรลุฉันทามติร่วมกันในการสร้างเงื่อนไขและโอกาสที่เป็นประโยชน์และเป็นรูปธรรมให้แก่เหล่าผู้ประกอบการ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการลงทุน ความร่วมมือและการค้าระหว่างกันให้มีความเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น อันจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ภาคประชาชนทั้งสองฝ่ายในอนาคตต่อไป
 
รองปธน.เซียวฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อ Ms. Duckworth ที่ให้การสนับสนุนญัตติว่าด้วยการหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีซ้ำซ้อน โดยรองปธน.เซียวฯ ระบุว่า ประเด็นดังกล่าวยังคงเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขมาตลอดหลายปี อย่างไรก็ตาม เราทราบมาว่า ขณะนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ลงมติผ่านแผนโซลูชันฉบับเบื้องต้นแล้ว จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า วุฒิสภาสหรัฐฯ จะให้การสนับสนุนควบคู่ไปด้วยเช่นกัน เชื่อว่า นี่จะเป็นพื้นฐานสำคัญของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ให้ดำเนินไปสู่ทิศทางเชิงลึกต่อไป
 
ขณะนี้ ไต้หวันกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายด้านความมั่นคง กลาโหม เศรษฐกิจและการค้า ซึ่งพวกเรารู้สึกดีใจมากที่มีมิตรสหายเฉกเช่น Ms. Duckworth คอยให้การสนับสนุนความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกันเสมอมาอย่างต่อเนื่อง  
 
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ก็ได้ให้การต้อนรับ Ms. Duckworth โดยปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐสภาและรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืนหยัดให้การสนับสนุนให้ไต้หวันแบบไม่แบ่งแยกฝักฝ่ายเสมอมา
 
ปธน.ไล่ฯ แถลงว่า ไต้หวัน - สหรัฐฯ ต่างก็ยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตย และหลักนิติธรรมเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังให้ความสำคัญต่อตลาดเสรีที่เปิดกว้าง นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็ยึดมั่นเป้าหมายร่วมกัน ในการธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในระดับภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก
 
ปธน.ไล่ฯ ระบุว่า ในปี 2564 Ms. Duckworth ได้เดินทางมาเยือนไต้หวันเป็นการเฉพาะ เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่ไต้หวัน ในการฝ่าฟันวิกฤตความท้าทายที่เกิดจากสถานการณ์โรคโควิด – 19 ด้วยการประกาศบริจาควัคซีนป้องกันโรคระบาดให้แก่ไต้หวัน อีกทั้งระยะที่ผ่านมา Mr. Duckworth ยังได้มุ่งผลักดันญัตติที่เป็นมิตรต่อไต้หวันหลายรายการ อาทิ “กฎหมายความมั่นคงไต้หวัน” (TAIWAN Security Act) “กฎหมายการยืนหยัดเคียงข้างไต้หวัน” (STAND with Taiwan Act) และ “กฎหมายว่าด้วยความร่วมมือด้านอวกาศ ระหว่างไต้หวัน - อวกาศ” (Taiwan and America Space Assistance Act of 2024, TASA) ซึ่งล้วนแต่เป็นการส่งเสริมให้ความร่วมมือระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ เป็นไปในทิศทางเชิงลึก และเป็นการผลักดันให้ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ยิ่งเกิดการพัฒนาที่คงเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
 
ปธน.ไล่ฯ เน้นย้ำว่า ประชาชนชาวไต้หวันมีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวในการปกป้องประเทศชาติ รวมถึงวิถีชีวิตรูปแบบประชาธิปไตยและเสรีภาพ ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ภาครัฐและภาคเอกชนได้ประสานความร่วมมือในการยกระดับ “ความยืดหยุ่นในการปกป้องภาคประชาสังคม” อย่างกระตือรือร้น ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็มุ่งดำเนินการปฏิรูปทางกลาโหมควบคู่ไปด้วย ซึ่งได้ทำการจัดสรรงบประมาณกลาโหม ให้เพิ่มสูงขึ้นเป็นสัดส่วนร้อยละ 3 ของ GDP ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพการป้องกันประเทศด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง
 
ปธน.ไล่ฯ แถลงว่า ขณะนี้ รัฐบาลไต้หวันได้ยื่นเสนอแนวทางการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในเชิงลึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะสร้างความสมดุลทางการค้าแบบทวิภาคี ผ่านการจัดซื้อพลังงาน สินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม จากสหรัฐฯ ในสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการลงทุนของผู้ประกอบการทั้งสองฝ่าย เพื่อกระตุ้นการพัฒนาทางอุตสาหกรรมแบบทวิภาคี โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมกลาโหม อุตสาหกรรมการต่อเรือ เป็นต้น โดยปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นรัฐสภาสหรัฐฯ เร่งบัญญัติกฎหมายว่าด้วยการหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีซ้ำซ้อนโดยเร็ววัน ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสใหม่ที่เพิ่มพูน ผ่านการเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางการค้า ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในอนาคตต่อไป
 
Ms. Duckworth กล่าวขณะปราศรัยว่า ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้เดินทางเยือนไต้หวันอีกครา โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ประจวบกับเป็นวาระครบรอบ 1 ปีในการเข้ารับตำแหน่งของปธน.ไล่ฯ Ms. Duckworth เชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นใครที่มาจากพรรคการเมืองใดในสหรัฐฯ ที่ได้ขึ้นบริหารปกครองประเทศชาติ หากต้องการที่จะผลักดันให้สหรัฐฯ ยังคงครองบทบาทผู้นำในระดับสากลอย่างต่อเนื่อง ก็จำเป็นที่จะต้องกล้ายืนหยัดเคียงข้างไต้หวันในทุกสถานการณ์
 
Ms. Duckworth กล่าวว่า ที่มาของญัตติภายใต้ชื่อ STAND with Taiwan Act ก็เพื่อต้องการแสดงจุดยืนให้เห็นว่า สหรัฐฯ พร้อมยืนเคียงข้างไต้หวัน เนื่องจากไต้หวันสวมบทบาทผู้นำที่สำคัญทั้งในเวทีระดับโลกและภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก โอกาสนี้ Ms. Duckworth แสดงจุดยืนย้ำชัดว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนไต้หวันแบบไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย โดยภาคประชาชนชาวไต้หวัน ต่างก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการปกป้องประเทศด้วยตนเองอย่างแข็งขัน
 
Ms. Duckworth แสดงทรรศนะว่า ไม่ว่าจะเป็นการบริจาควัคซีนป้องกันโควิด – 19 ให้ไต้หวัน การประสานความร่วมมือระหว่างกรมเรียกกำลังพลสำรองป้องกันประเทศ (All-Out Defense Mobilization Agency , AODMA) ภายใต้กระทรวงกลาโหมไต้หวัน และกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิสหรัฐฯ หรือการจัดตั้งกลุ่มเจ้าหน้าที่รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้วยตนเองของภาคเอกชน เป็นต้น ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ
 
Ms. Duckworth แถลงว่า นอกจากความร่วมมือทางกลาโหมแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังมีโอกาสการพัฒนาในด้านต่างๆ ที่สร้างความหวังให้แก่ประเทศชาติอีกมาก อาทิ การผลิตไมโครชิป การลงทุนภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมการต่อเรือ รวมไปถึงระบบประกันสุขภาพทางการแพทย์ เป็นต้น เชื่อว่าการลงทุนแบบทวิภาคีเหล่านี้ จะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการพัฒนาและเสถียรภาพของสองประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ Ms. Duckworth จึงได้ตั้งปณิธานไว้ว่า ตนจะมุ่งธำรงรักษาความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง

ประเด็นร้อน

ประเด็นล่าสุด