วันที่ 15 มิถุนายน 2561
ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน แห่งไต้หวันสาธารณรัฐจีนกล่าวขณะให้การต้อนรับแคทเธอรีน คอมเมล(Katherine Commale) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "ทูตแห่งมุ้ง" ประจำทวีปแอฟริกาและคณะที่เข้าพบคารวะเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า หวังว่าในอนาคตทีมงานจากไต้หวันจะมีโอกาสร่วมมือกับแคทเธอรีนช่วยเหลือให้มวลมนุษย์โลกห่างไกลจากโรคมาลาเรีย
ปธน.ไช่อิงเหวินกล่าวว่า ยินดีต้อนรับแคทเธอรีนและครอบครัวของเธอที่มาเยือนไต้หวัน พร้อมกล่าวว่า ท่านได้อ่านทบทวนเรื่องราวของแคทเธอรีนและครอบครัวใหม่อีกครั้ง ทำให้รู้ว่า สิบกว่าปีก่อนเด็กหญิงอายุ 5 ขวบคนหนึ่ง ได้แรงบันดาลใจจากการชมภาพยนตร์สารคดีของโทรทัศน์สาธารณะ จึงทุ่มเทชีวิตกับงานเรี่ยไรเงินบริจาคเพื่อนำไปซื้อมุ้งให้แก่เด็กแอฟริกานับล้านคนเพื่อให้ห่างไกลจากโรคมาลาเรีย จากเรื่องราวของแคทเธอรีนทำให้เรามองเห็นความรัก ความกล้าหาญและการมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตั้งใจ
ผู้นำไต้หวันกล่าวว่า ที่นี่มีเด็กนักเรียนจำนวนมากที่เคยเข้าร่วม “กิจกรรมการกุศลของเด็กนักเรียนประถมศึกษา” เหมือนกับแคทเธอรีน ทุกคนมีความรัก ความกล้าหาญและลงมือทำในสิ่งที่ตั้งใจ หรืออยากลองเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ อาทิ “กิจกรรมปลอดการเหยียดหยาม” ของโรงเรียนประถมศึกษาเจี้ยนกง นครไทจง ความพยายามที่จะแก้ปัญหาขยะในทะเลของโรงเรียนประถมศึกษาหลินหยวน นครเกาสง และการพาเด็กนักเรียนออกไปให้ความช่วยเหลือคนจรจัดของนครนิวไทเป ท่านหวังว่าในอนาคตเด็กๆ จะมีปณิธานที่จะให้ความช่วยเหลือผู้อื่นเพื่อให้สังคมดีขึ้น
ปธน.ไช่อิงเหวินได้แบ่งปันประสบการณ์การทำสงครามกับโรคมาลาเรียของไต้หวันแก่แคทเธอรีน โดยได้กล่าวว่า เมื่อครึ่งศตวรรษที่แล้ว ไต้หวันเคยทำสงครามกับโรคมาลาเรียมาก่อน แต่ไต้หวันมีผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์สาธารณสุขที่มีความสามารถสูงกลุ่มหนึ่ง ในจำนวนนี้มีท่านหนึ่งได้รับสมญานามว่า “ดร.ยุง” ซึ่งก็คือ ดร.เหลียนรื้อชิง ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้ได้ช่วยไต้หวันสถาปนาระบบการป้องกันโรคติดต่อที่สมบูรณ์ ดังนั้น ในปี พ.ศ.2508 องค์การอนามัยโลก(WHO)ได้ประกาศให้ไต้หวันเป็น “ประเทศที่ปลอดจากโรคมาลาเรีย” และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่พบโรคมาลาเรียที่เกิดขึ้นในไต้หวันเลย ปัจจุบันไต้หวันยังคงยึดมั่นสปิริตของผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้นำประสบการณ์การป้องกันโรคมาลาเรียไปช่วยเหลือประเทศในแอฟริกาและแปซิฟิกตอนใต้ น่าเสียดายที่การแบ่งปันประสบการณ์และช่องทางความช่วยเหลือของทีมผู้เชี่ยวชาญไต้หวันถูกจำกัดเพราะปัญหาทางการทูต แต่ไต้หวันยังคงไม่ละทิ้งความพยายามและโอกาสที่จะบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อประชาคมโลก หวังว่าในอนาคตทีมงานของไต้หวันจะมีโอกาสร่วมมือกับแคทเธอรีนช่วยเหลือผู้คนในแอฟริกาและทั่วโลกให้ห่างไกลจากภัยคุกคามของโรคมาลาเรีย
ทางด้านแคทเธอรีน คอมเมลกล่าวว่า ตอนที่เธอมีอายุแค่ 5 ขวบ เธอได้ชมสารคดีเกี่ยวกับไข้มาลาเรียในแอฟริกาและรู้สึกตกใจกับคำพูดที่ว่า ทุกๆ 30 วินาทีจะมีเด็กเสียชีวิตจากไข้มาลาเรีย 1 คน ทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก ยังดีที่วิธีการแก้ไขปัญหานี้ง่ายนิดเดียว นั่นก็คือใช้เงินเพียง 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปซื้อมุ้งก็สามารถช่วยชีวิตเด็กได้ 1 คน และช่วยในครอบครัวนั้นห่างไกลจากโรคมาลาเรียได้ ต่อมาเธอได้เริ่มขยายกิจกรรมรณรงค์บริจาคเงินเพื่อนำไปซื้อมุ้ง
แคทเธอรีนเล่าว่า ครอบครัวเธอสนับสนุนการกระทำของเธอเป็นอย่างดี ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมาเธอและมารดาได้ทุ่มเทให้กับกิจกรรมรณรงค์บริจาคเงินอย่างเต็มกำลังความสามารถ อีกทั้งได้ร่วมกิจกรรมวันมาลาเรียโลกและตระเวนแสดงปาฐกถากับมูลนิธิ Clinton Global Initiative แต่สิ่งที่เธอรู้สึกว่าวิเศษที่สุดคือ ได้มีโอกาสเดินทางมาไต้หวันและแสดงปาฐกถาเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของเธอให้ทุกคนได้รับฟัง หวังว่าการเดินทางเยือนไต้หวันครั้งนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กๆในไต้หวัน อีกทั้งขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ไต้หวันและชาวไต้หวันให้การสนับสนุนเธอและครอบครัว
โอกาสนี้นางเฉินเหม่ยหลิง เลขานุการมูลนิธิ Maria Social Welfare Foundation นายเลี่ยว
กว่างฉาย ผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์ Grimm Press และนางลวิเป่าจิ้ง รมช.สาธารณสุขและสวัสดิการ ตลอดจนนายหลี่ต้าเหว่ย เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติร่วมเข้าพบคารวะปธน.ไช่อิงเหวิน พร้อมกับแคทเธอรีนและครอบครัวด้วย