ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 17 ต.ค. 68
เมื่อช่วงที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉิน ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Chris Brown ผู้สื่อข่าวบรรษัทกระจายเสียงแห่งแคนาดา (CBC) ที่ประจำการในแคนาดา เพื่อตอบซักถามในประเด็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน – แคนาดา , ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน สหรัฐฯ และจีน , อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ , กลาโหมและสงครามจิตวิทยา เป็นต้น
เนื้อหาบทสัมภาษณ์ สรุปได้โดยสังเขป ดังนี้ :
ถาม : จากมุมมองของรองปธน.เซียวฯ คาดหวังที่จะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - แคนาดา พัฒนาไปในทิศทางใด? และเรียงลำดับความสำคัญไว้เช่นไร?
ตอบ : แม้ว่าแคนาดาจะมีขนาดใหญ่มากในที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม ไต้หวัน – แคนาดา มีหลายส่วนที่คล้ายคลึงกัน ภาคประชาชนชาวไต้หวันรักเสรีภาพ และเป็นส่วนหนึ่งในประชาธิปไตย แม้ว่าระบอบประชาธิปไตยของเราจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายหลายด้าน แต่พวกเรายังคงมุ่งมั่นในการธำรงรักษาไว้ซึ่ง อีกทั้งไต้หวันยังเป็นเขตเศรษฐกิจที่เปิดตลาดเสรี และเป็นสมาชิก “องค์การการค้าโลก” (WTO) เรามีหลายส่วนที่สามารถเอื้อประโยชน์แก่กันในด้านเศรษฐกิจและการค้า แคนาดาเป็นแหล่งซัพพลายเออร์ที่สำคัญของไต้หวัน ในด้านผลผลิตทางการเกษตร มาเป็นเวลายาวนาน ส่วนไต้หวันมีชิ้นส่วนอะไหล่ที่สำคัญ ที่สร้างคุณูปการต่ออุตสาหกรรมการผลิตของแคนาดา พวกเราจึงคาดหวังที่จะเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป หากมีการจัดตั้งกรอบโครงสร้างทางกฎหมายที่สมบูรณ์ เพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าแก่กัน เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยได้อย่างมาก นอกจากนี้ พวกเรายังคาดหวังที่จะเห็นแคนาดาให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (CPTPP) ซึ่งมีความสำคัญต่อไต้หวันเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเรามุ่งแสวงหาความยุติธรรมและความเป็นธรรมในกรอบโครงสร้างและองค์การระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลไกการค้าระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนรากฐานกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
ด้านความมั่นคง พวกเราขอขอบคุณรัฐบาลแคนาดาที่ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเสรีภาพการเดินเรือในพื้นที่รายรอบช่องแคบไต้หวันเป็นจำนวนบ่อยครั้ง ซึ่งอ้างอิงจากแผนยุทธศาสตร์อินโด – แปซิฟิก พร้อมทั้งแสดงบทบาทผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนําระดับโลก 7 ประเทศ (G7) จับมือกับกลุ่มประเทศสมาชิกอื่นๆ เน้นย้ำว่า สันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน มีบทบาทสำคัญต่อความเจริญรุ่งเรืองระดับโลก ในโอกาสนี้ รองปธน.เซียวฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลแคนาดา ที่ร่วมลงนาม “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในระบบตรวจค้นและจับกุมเรือต้องสงสัย” เพื่อยกระดับการแจ้งเตือนทางทะเลของไต้หวัน เทคโนโลยีของแคนาดานอกจากจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความครอบคลุมของกฎระเบียบด้านการประมงระดับสากลแล้ว ยังมีส่วนช่วยในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการระแวดระวังภัยทางทะเล ซึ่งความร่วมมือของพวกเราสามารถสร้างหลักประกันให้แก่ผู้ที่มีส่วนร่วมในผลประโยชน์ในระดับภูมิภาค
ถาม : หากกล่าวถึงประเด็นการค้า คุณตีความสถานการณ์ภาพรวมในปัจจุบันของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ – จีน ไว้เช่นไร? สถานการณ์ข้างต้นสามารถส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสำคัญของไต้หวันอย่างไร?
ตอบ : หากคุณหมายถึงบทบาทของจีนในกลไกการค้าระดับโลก พวกเราได้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการบทบาท มานับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 ช่วงเวลาขณะนั้น รัฐบาลจีนได้ประกาศใช้นโยบายการเปิดกว้างการปฏิรูป ผ่านการเข้าร่วมองค์การการค้าโลก (WTO) และกลไกการค้าโลก และได้รับประโยชน์มากมาย แต่ในขณะเดียวกัน หลายปีมานี้ พวกเราตระหนักเห็นว่า จีนได้อาศัยกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจมาเป็นเครื่องมือในการข่มขู่ ในกรณีตัวอย่างของไต้หวัน จีนเคยอาศัยการส่งออกจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร มาใช้เป็นเครื่องมือสร้างแรงกดดันทุกแวดวงของภาคประชาสังคมในไต้หวัน ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงมุ่งผลักดันผลผลิตการเกษตรของไต้หวันอย่างกระตือรือร้นต่อประชาคมโลก เพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาตลาดจีนเพียงเส้นทางเดียวมากจนเกินไป
ถาม : คุณกังวลหรือไม่ว่า ไต้หวันจะตกเป็นหนึ่งในกลอุบายเพื่อการเจรจาทางการค้า ระหว่างสหรัฐฯ – จีน?
ตอบ : สหรัฐฯ – จีน เกิดปัญหาระหว่างกันมากมาย ส่วนความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางการค้า ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งหนักแน่น ในความเป็นจริงแล้ว อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และแผ่นชิปวงจรรวมของไต้หวัน ได้ประสานความร่วมมือกับสหรัฐฯ และซิลิคอนวัลเลย์อย่างแน่นแฟ้น หลายคนต่างมองว่า ซิลิคอนวัลเลย์และนิคมอุตสาหกรรมทางเทคโนโลยี เป็นระบบนิเวศทางเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองระดับโลก ด้วยเหตุนี้ ไต้หวัน - สหรัฐฯ จึงได้จัดตั้งความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนของห่วงโซ่อุปทาน การค้าและเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่ง โดยพวกเรายังคงจัดตั้งการเสวนาและการแลกเปลี่ยนบนพื้นฐานข้อได้เปรียบที่มีอยู่เดิม
นอกจากนี้ พวกเรายังมีอีกส่วนที่แตกต่างจากเขตเศรษฐกิจของจีน ซึ่งก็คือการที่พวกเราส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการผลิตและเทคโนโลยีของไต้หวัน ก้าวสู่เขตเศรษฐกิจที่เชื่อถือได้ ซึ่งได้รับการบรรจุให้เข้าสู่การเป็นหนึ่งใน “อุตสาหกรรมหลักที่มีความน่าเชื่อถือ” ที่ยื่นเสนอโดยปธน.ไล่ฯ
ถาม : พวกเราทราบดีว่า ยิ่งนับวัน จีนยิ่งกระทำพฤติกรรมคุกคามในช่องแคบไต้หวันเพิ่มขึ้นอย่างหนักหน่วง และมีการแจ้งเจตนารมณ์อย่างชัดเจนถึงช่วงเวลาที่จะบุกโจมตีไต้หวัน คุณกังวลหรือไม่ว่า สหรัฐฯ อาจจะยอมถอยในระหว่างการเจรจาทางการค้าในขอบเขตที่กว้างมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของจีน ส่งผลให้ไต้หวันตกเป็นหมากทางการค้า?
ตอบ : จีนไม่เคยหยุดการยื่นเสนอแผนการใดๆ ในประเด็นไต้หวันเลยบนเวทีนานาชาติ แต่ถึงกระนั้น นโยบายที่สหรัฐฯ มีต่อไต้หวัน ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง บนพื้นฐาน “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” และ “หลักประกัน 6 ประการ” ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ภาครัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ก็ยังคงยืนหยัดในจุดยืนข้างต้นอย่างหนักแน่น ซึ่งนโยบายข้างต้นนี้ยังคงเป็นกรอบโครงสร้างที่มั่นคง มีเสถียรภาพและดำเนินไปในทิศทางเดียวกันของความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ทั้งนี้ทั้งนั้น การธำรงรักษาเสรีภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในไต้หวัน ยังคงเป็นไฮไลท์สำคัญของเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกในภาพรวม ด้วยเหตุนี้ ความสัมพันธ์แบบทวิภาคีจึงมีความสำคัญยิ่งต่อทั้งสองฝ่าย
ถาม : สไตล์การปกครองของผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ยากที่จะคาดการณ์ จึงอยากทราบว่า จะส่งผลต่อการคาดการณ์ของพวกคุณหรือไม่?
ตอบ : นโยบายที่สหรัฐฯ มีต่อไต้หวัน ยังคงเป็นเหมือนเดิมเสมอมา ตลอดหลายสิบปี ในความเป็นจริงแล้วนั้น พลังเสียงสนับสนุนที่สหรัฐฯ มีต่อไต้หวัน เป็นฉันทามติแบบข้ามพรรคการเมือง พวกเราจะยังคงเดินหน้าความร่วมมือกับฝ่ายสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศด้วยการพึ่งพาตนเอง ซึ่ง “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” ได้วางรากฐานทางกฎหมายที่มั่นคงสำหรับด้านกลาโหมไว้แล้ว
ถาม : เราเข้าใจแนวคิด “ระบบนิเวศร่วมกัน” โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ อย่างไรก็ตาม พวกเราได้ยินมาว่า เจ้าหน้าที่ภาครัฐสหรัฐฯ หวังที่จะเห็นไต้หวัน ย้ายฐานการผลิตแผ่นชิปวงจรรวมไปสู่สหรัฐฯ ในสัดส่วนร้อยละ 50 ไม่ทราบว่าคุณคิดเห็นเช่นไรกับเรื่องนี้?
ตอบ : ศักยภาพและการแข่งขันด้านการผลิตแผ่นชิปของไต้หวัน มิได้เกิดขึ้นในวันเดียว แต่เป็นผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากความมุ่งมั่นพยายามและการสั่งสมมาเป็นระยะเวลานาน ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ดำเนินไปในทิศทางที่ไม่แน่นอน ไต้หวันได้จัดตั้งระบบนิเวศการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงที่สมบูรณ์และเปี่ยมด้วยศักยภาพการแข่งขัน เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงภาคอุตสาหกรรม พวกเราจะเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีแผ่นชิปรุ่นใหม่ โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุนระบบนิเวศทางเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเอกชนคิดค้นสิ่งใหม่ๆ และครองบทบาทผู้นำต่อไป ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ถือเป็นหุ้นส่วนสำคัญในภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมจำนวนมากของไต้หวัน ต่างเคยเข้ารับการศึกษาในสหรัฐฯ พวกเราตระหนักทราบว่า ฝ่ายสหรัฐฯ หวังที่จะผลักดัน “การฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม” ในรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งไต้หวันถือเป็นหุ้นส่วนที่มีบทบาทสำคัญ ภายใต้บริบทข้างต้น และพวกเราได้ให้คำมั่นแล้วว่า จะเข้าลงทุนในสหรัฐฯ นอกเหนือจากบริษัท TSMC แล้ว ยังประกอบด้วยส่วนอื่นๆ ในระบบนิเวศที่ยิ่งใหญ่อีกด้วย นอกจากนี้ พวกเรายังเห็นว่า ฝ่ายสหรัฐฯ ให้ความสำคัญต่อบทบาทผู้นำด้าน AI ไต้หวันเป็นผู้ผลิตเครื่องมืออุปกรณ์และเสิร์ฟเวอร์ที่มีส่วนช่วยในศูนย์การประมวลผลระดับโลก นักธุรกิจชาวไต้หวันหลายราย ต่างมีแผนการเข้าลงทุนในสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาอันสั้น พวกเราหวังที่จะประสานความร่วมมือกันในรูปแบบที่คำนึงถึงการขยายตัวเติบโตของไต้หวัน ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างศักยภาพของสหรัฐฯ
ถาม : พวกเราได้ทำการสัมภาษณ์คนบางกลุ่ม พวกเขาต่างมีมุมมองว่า ไต้หวันที่เป็นเพียงพื้นที่ที่ได้รับการยอมรับจากไม่กี่ประเทศทั่วโลก มีตัวตนเด่นชัดขึ้นในประชาคมโลก อันเนื่องมาจากการจัดตั้งอุตสาหกรรมข้างต้นขึ้น ภายใต้สถานการณ์ความพลิกผัน ในฐานะเจ้าหน้าที่ภาครัฐและผู้นำ คุณจะใช้ประโยชน์จากจุดนี้อย่างไร?
ตอบ : ระยะที่ผ่านมานี้ มีผลงานสารคดีของไต้หวันในชื่อ “ประเทศที่มองไม่เห็น” (Invisible Nation) ที่บอกเล่าว่า มีหลายประเทศทั่วโลกที่ยังคงไม่ยอมรับสถานภาพการคงอยู่ของไต้หวัน ซึ่งไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเรา แต่พวกเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาประชาธิปไตย เสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจ และสวมบทบาทเป็นพลังแห่งความดีบนโลกใบนี้ต่อไป ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ไต้หวันได้รับการยอมรับอย่างล้นหลามโดยทั่วไปว่า เป็นพลังเชิงบวกที่ส่งเสริมความก้าวหน้าระดับโลก และเป็นพลังแห่งความดีบนโลกใบนี้ ซึ่งประเทศเหล่านี้ต่างตระหนักถึงบทบาทสำคัญของไต้หวัน โดยเฉพาะการสวมบทบาทสำคัญที่ไม่สามารถขาดได้ในระบบห่วงโซ่อุปทานที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งพวกเรายังมุ่งสวมบทบาทสำคัญ ในด้านสาธารณสุขส่วนรวม ซึ่งเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด – 19
นอกจากนี้ ในส่วนมาตรฐานความมั่นคงทางการบินระหว่างประเทศ อาทิ การจัดการประชุมสมัชชาองค์การการบินพลเรือน (ICAO) ที่ได้มีการกีดกันการเข้ามีส่วนร่วมของไต้หวัน ถูกประชาคมโลกมองว่า เป็นเรื่องที่ไร้ซึ่งความเป็นธรรม จากการที่ประชาคมโลกตระหนักเห็นว่า การกีดกันไต้หวันเข้าร่วม อาจนำมาซึ่งผลกระทบระดับสากล จึงทำให้พวกเราได้รับการสนับสนุน ซึ่งมีส่วนสำคัญยิ่งต่อการรักษาเสถียรภาพในระดับภูมิภาค
ถาม : จวบจนปัจจุบัน เรายังเห็นว่า จีนยังคงจัดส่งเครื่องบินรบและเรือรบ รุกล้ำผ่านเส้นกึ่งกลาง เป็นวาระสม่ำเสมอ รัฐบาลได้มีการประเมินสถานการณ์ล่าสุดและช่วงเวลาที่อาจถูกโจมตีจากภัยคุกคามทางทหารจากจีนไว้เช่นไร?
ตอบ : ก่อนอื่น รองปธน.เซียวฯ เน้นย้ำว่า ความมุ่งมั่นพยายามที่พวกเรามุ่งสร้างในด้านความมั่นคง ก็เพื่อป้องกันการปะทุขึ้นซึ่งความขัดแย้ง เป้าหมายของพวกเราคือการสกัดกั้น ความขัดแย้งในทุกพื้นที่ทั่วโลกให้ข้อคิดต่อพวกเราว่า ไม่ควรมองว่าสันติภาพเป็นเรื่องที่ได้มาอย่างง่ายดาย เพราะฉะนั้น เราจึงยิ่งจำเป็นต้องเดินหน้าเสริมสร้างความพร้อมทางกลาโหม ทุกแวดวงในประชาคมโลกล้วนทราบดีว่า จีนทุ่มเทงบประมาณจำนวนมหาศาล เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางกลาโหม และจัดการซ้อมรบในขอบเขตที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่รายรอบช่องแคบไต้หวัน ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อไต้หวันแล้ว ยังส่งผลต่อประเทศรายรอบและพื้นที่ในทะเลจีนใต้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงจำเป็นต้องประยุกต์ใช้มาตรการรับมือที่หลากหลาย เริ่มจากการเพิ่มพูนงบประมาณกลาโหม และแสวงหาความร่วมมือกับหุ้นส่วนระหว่างประเทศ เพื่อร่วมสกัดกั้นและเป็นการแจ้งเตือนผู้นำจีนและกองทัพปลดปล่อยประชาชนของจีนว่า สงครามไม่ใช่ทางเลือก ความขัดแย้งไม่ก่อให้เกิดผู้ชนะที่แท้จริง
รองปธน.เซียวฯ แสดงความคิดเห็นว่า กลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยสามารถสร้างคุณประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยการเสริมสร้างกลไกการรับมือ และช่วยเหลือกันในการรับมือต่อภัยคุกคามที่เกิดจากกลยุทธ์พื้นที่สีเทา
ถาม : ก่อนหน้านี้ เราได้ทำการสัมภาษณ์กลุ่มเยาวชน และสังเกตเห็นว่า พวกเขาได้รับผลกระทบจากสื่อ Tiktok จากจีนมากพอสมควร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์พื้นที่สีเทา คุณคิดเห็นอย่างไรกับประเด็นปัญหานี้?
ตอบ : พวกเราอยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรประชาธิปไตยทั่วโลก เพื่อแสวงหาแนวทางการรับมือที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการแทรกซึมจากประเทศเผด็จการ ซึ่งในจำนวนนี้ ประกอบด้วย กิจกรรมการประชาสัมพันธ์ทักษะการรู้เท่าทันสื่อ เปิดเผยข้อมูลบางบโครงการและการดำเนินการของแพลตฟอร์ม รวมไปถึงการสกัดกั้นข่าวปลอม แม้ว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญตต่อประชาสังคมในไต้หวัน แต่ภาคประชาชนก็เริ่มที่จะตระหนักถึงประเด็นปัญหาสงครามจิตวิทยา และเข้าใจว่าพวกเขาอาศัยข่าวปลอม มาใช้เป็นเครื่องมือบ่อนทำลายความสามัคคีของสังคมประชาธิปไตย
ถาม : ระบบการสกัดกั้นขีปนาวุธ ภายใต้แนวคิด “เกราะป้องกันไต้หวัน” (T-Dome) ที่ประกาศโดยปธน.ไล่ชิงเต๋อ มีแนวทางในการดำเนินการอย่างไร?
ตอบ : แนวคิด “เกราะป้องกันไต้หวัน” (T-Dome) ที่ยื่นเสนอโดยปธน.ไล่ฯ แท้จริงแล้วคือ เครือข่ายการป้องกันความมั่นคงที่รัดกุม ซึ่งครอบคลุมทั้งระบบการป้องกันภัยทางอากาศทั่วทุกพื้นที่ในไต้หวัน รวมถึง “ระบบตรวจจับที่บูรณาการเข้ากับระบบการโจมตี” (sensor-to-shooter) นอกจากจะบูรณาการระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันแล้ว ยังอัดฉีดเทคโนโลยีรูปแบบใหม่และซอฟต์แวร์ทันสมัยเข้าเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อสรรสร้างเกราะป้องกันที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น