ทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 25 ก.ย. 68
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 กันยายน 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้เดินทางเยือนศูนย์บัญชาการทหารและโรงบำบัดน้ำเสียในเขตกวงฟู่ เมืองฮัวเหลียน เพื่อส่งมอบความห่วงใยให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และส่งมอบขวัญกำลังใจให้แก่กองทัพทหารที่เข้าช่วยกู้ภัย อันเนื่องมาจากผลกระทบของพายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) โดยปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า รัฐบาลกลางจะรับฟังเสียงของประชาชนชาวฮัวเหลียน ด้วยการยืนเคียงข้างสนับสนุนทุกภารกิจที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การช่วยกู้ภัยไปจนถึงการฟื้นฟูบูรณะ โดยหวังจะเห็นภาคประชาชนในพื้นที่ กลับสู่วิถีชีวิตปกติสุขโดยเร็ววัน
เริ่มต้น ปธน.ไล่ฯ เข้ารับฟังรายงานสถานการณ์ภัยพิบัติล่าสุด และระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม การส่งน้ำเข้าสู่พื้นที่ชลประทาน และการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานหลังเหตุภัยพิบัติ เป็นต้น
ปธน.ไล่ฯ แถลงว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่นรากาซาในครั้งนี้ แม้จะไม่ได้พัดถล่มเข้าสู่ไต้หวันโดยตรง แต่เนื่องจากอิทธิพลรัศมีไต้ฝุ่นแผ่ขยายเป็นวงกว้าง จึงส่งผลให้พื้นที่เมืองฮัวเหลียน เกาสงและผิงตง มีฝนตกหนักมาก โดยเฉพาะการตกหนักติดต่อกันต่อเนื่องในเมืองฮัวเหลียน เป็นเวลา 4 วัน จึงทำให้ปริมาณน้ำฝนสะสมสูงถึง 700 – 800 มิลลิเมตร ส่งผลให้ทะเลสาบที่กั้นไว้ล้นทะลักจากสันเขื่อนหม่าไท่อัน เกิดเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ ปธน.ไล่ฯ ขอร่วมไว้อาลัยต่อผู้ที่ล่วงลับไปจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันในครั้งนี้ และขอให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหายเป็นปกติโดยเร็ววัน และหวังที่จะค้นพบตัวผู้สูญหายโดยเร็ววัน
ในโอกาสนี้ ปธน.ไล่ฯ ขอแสดงความขอบคุณต่อนายจั๋วหรงไท่ นายกรัฐมนตรีไต้หวัน ที่ได้ประกาศจัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือภัยพิบัติ ทันทีที่ทราบเรื่อง โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานดังกล่าวมีหน้าที่ประสานงานระหว่างส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นในการแก้ปัญหาประปา ไฟฟ้า การติดต่อสื่อสารและการส่งมอบเวชภัณฑ์เพื่อการช่วยเหลือ เป็นต้น
ปธน.ไล่ฯ ระบุว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา นรม.จั๋วฯ ได้ลงพื้นที่และจัดแจงมอบหมายภารกิจหลักๆ ตามความต้องการของภาคประชาชนในพื้นที่ โดยมีสาระสำคัญที่สรุปได้สังเขป ดังนี้ :
ประการแรก : ขอให้นายเฉินสือจง รัฐมนตรีประจำสภาบริหาร เร่งเปิดบัญชีเพื่อการระดมทุนให้ความช่วยเหลือกู้ภัย
ประการที่สอง : แม้ว่าปริมาณน้ำในพื้นที่เสี่ยงภัย จะลดลงจาก 91 ล้านตัน มาสู่ 13 ล้านตัน แต่ยังคงเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก จึงขอให้กระทรวงเกษตรเฝ้าจับตาอย่างต่อเนื่อง และนำข้อมูลการตรวจสอบที่ได้ ไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นอีก
ประการสุดท้าย : ขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งแก้ปัญหาสะพานข้ามแม่น้ำหม่าไท่อันที่ขาดสะบั้นลง เนื่องจากสะพานเส้นนี้ มีความสำคัญต่อการคมนาคมขนส่งในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยรัฐมนตรีเฉินสื่อไข่ได้ชี้แจงว่า ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนหลังจากนี้ จะทำการติดตั้งสะพานฉุกเฉินให้แล้วเสร็จ และภายในระยะเวลา 4 เดือน โครงสร้างสะพานเบื้องต้นจะแล้วเสร็จลง ส่วนสะพานที่มีความแข็งแกร่งทนทานตามมาตรฐาน คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2569 หรืออย่างน้อยสะพานเลนเดี่ยว จะต้องเปิดให้บริการตามเวลาที่กำหนดไว้
ปธน.ไล่ฯ ระบุว่า ขณะนี้ พวกเราสามารถรวบรวมศูนย์พักพิงได้ทั้งหมด รวม 17 แห่ง ซึ่งสถานที่ทุกแห่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์และเวชภัณฑ์อาหาร โดยกระทรวงสาธารณสุขฯ จะประสานงานกับโรงพยาบาลฉือจี้ และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เข้าช่วยกำกับดูแล นอกจากนี้ กระทรวงสิ่งแวดล้อมก็จะช่วยเหลือเทศบาลเมืองฮัวเหลียน ในภารกิจด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข เนื่องจากภารกิจการฟื้นบำรุงสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน เป็นปัญหาที่มีความหนักหน่วงมาก
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ข้าพเจ้าได้เร่งกำชับให้กองทัพทหารทุกหน่วยงาน มุ่งตรงเข้าสู่พื้นที่ประสบภัยและดำเนินการกู้ภัยอย่างเร่งด่วน ในโอกาสนี้ ปธน.ไล่ฯ ขอขอบคุณนายกู่ลี่สวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายหลิวเหว่ยซิน ผู้บังคับบัญชาการ ภาค 2 ที่เร่งวางมาตรการเข้าช่วยเหลือและร่างแผนการที่ เปรียบเสมือนการออกรบ โดยกองทัพทหารจะช่วยเหลือเคลียร์พื้นที่ที่ปกคลุมด้วยดินโคลนอย่างขมักเขม้น นอกจากนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังได้มอบอำนาจให้รมว.กู่ฯ และผู้บังคับบัญชาการ เร่งพูดคุยหารือกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมีฉันทามติร่วมกัน ในการที่เหล่าทหารจะบุกเข้าบ้านพัก เพื่อขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ออกมาล้างทำความสะอาดดินโคลนที่ติดอยู่
นอกจากนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยในเขตพื้นที่อื่นๆ ที่เข้าช่วยเหลือกู้ภัยในเมืองฮัวเหลียน พร้อมหวังจะเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่ทั่วประเทศ เข้าช่วยเหลือค้นหาผู้สูญหาย และขอให้เทศบาลเมืองฮัวเหลียนรวบรวมความต้องการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อเป็นหลักอ้างอิงให้แก่รัฐบาลกลางและกองทัพทหารที่เข้าช่วยเหลือ ตลอดจนยังกำชับให้สำนักงานทรัพยากรน้ำ ภายใต้กระทรวงเศรษฐการ เร่งซ่อมแซมสันเขื่อนหม่าไท่อัน ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ – 1 เดือน และเพิ่มความแข็งแกร่งของสันเขื่อนก่อนเทศกาลตรุษจีน ตลอดจนสร้างเขื่อนถาวรให้แล้วเสร็จ ก่อนฤดูน้ำหลากในปีหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เขื่อนพังทลายลงต่อเนื่อง
ปธน.ไล่ฯ ชี้แจงว่า การแก้ไขปัญหาข้างต้นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลา และต้องพึ่งพาความสามัคคีของทุกภาคส่วน ขณะนี้ โรงบำบัดน้ำเสียในเขตกวงฟู่ ได้ฟื้นฟูระบบประปากลับสู่สภาพปกติแล้วกว่าร้อยละ 40% และคาดว่า จะสามารถกลับสู่สภาวะปกติได้ในคืนวันที่ 25 ก.ย. ส่วนความคืบหน้าในการฟื้นฟูระบบไฟฟ้า ขณะนี้ทุกอย่างฟื้นตัวกว่าร้อยละ 98% แล้ว โดยบริษัทการไฟฟ้าจะเร่งฟื้นฟูให้กลับมาเปิดใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยเร็ววัน สำหรับฐานกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต ขณะนี้ได้ทำการซ่อมแซมไปเกินกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว ประกอบกับบริษัทโทรคมนาคมทั้งสามแห่งของไต้หวัน กำลังให้ความช่วยเหลือติดตั้งโรมมิ่ง เพื่อฟื้นฟูกลไกการสื่อสารให้กับบรรดาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างขมักเขม้น
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 กันยายน 2568 นายชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้โพสต์ข้อความส่งมอบความห่วงใยต่อสถานการณ์พายุไต้ฝุ่นรากาซาที่ส่งผลกระทบต่อไต้หวัน ผ่านแพลตฟอร์ม X โดยนรม. อิชิบะ ได้ร่วมไว้อาลัยต่อผู้ที่ล่วงลับ และร่วมอธิษฐานให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ กลับสู่วิถีชีวิตปกติโดยเร็ววัน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สมาคมแลกเปลี่ยนไต้หวัน - ญี่ปุ่น และ “สหภาพรัฐสภาแบบข้ามพรรคของญี่ปุ่น” (Nikka Giin Kondankai) รวมถึงสมาชิกสภาที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน ก็ได้ร่วมแสดงความห่วงใยต่อภาคประชาชนชาวไต้หวันด้วยความจริงใจ กระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในญี่ปุ่น ต่างทยอยแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ต่อเจ้าหน้าที่ภาครัฐของญี่ปุ่น