กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ วันที่ 28 พ.ย. 65
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (CECC) ของไต้หวัน ประกาศว่า เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์โรคระบาดที่ทุเลาลง ประกอบกับสถานการณ์การควบคุมโรคโควิด – 19 ที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อคำนึงถึงมาตรการป้องกันโรคระบาด เศรษฐกิจและการใช้ชีวิตในสังคม ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพของการป้องกันโรคระบาดภายในประเทศ และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากที่ได้ทำการประเมินสถานการณ์ล่าสุดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว CECC จึงประกาศผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคระบาดด้านการสวมหน้ากากอนามัย นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. เป็นต้นไป ดังนี้ :
1. ยกเลิกกฎระเบียบซึ่งบังคับให้สวมใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่กลางแจ้งหรือสถานที่กลางแจ้ง เว้นเฉพาะกิจกรรมกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่จัดขึ้นในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ที่จะต้องพิจารณาจากสถานการณ์ล่าสุดอีกครั้ง โดยจะประกาศให้ทราบในภายหลัง
2. เมื่อเข้าสู่พื้นที่ในร่มหรือภายในอาคารสถานที่ อาทิ การโดยสารระบบขนส่งสาธารณะ เรือโดยสาร หรืออากาศยาน จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด แต่หากมีคุณสมบัติสอดคล้องตามเงื่อนไขด้านล่างนี้ สามารถอนุโลมในการถอดหน้ากากอนามัยได้
3. ผู้ที่มีคุณสมบัติสอดคล้องตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย ในระหว่างที่อยู่ภายในอาคารสถานที่ แต่จำเป็นต้องเตรียมหน้ากากอนามัยไว้ให้พร้อมต่อการหยิบมาใช้สอย แต่หากสังเกตว่าตนมีอาการต้องสงสัยหรือไม่สามารถรักษาระยะห่างทางสังคมกับผู้อื่นได้ ก็ควรที่จะสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด
3.1) ผู้ประกอบกิจกรรมการออกกำลังกาย ร้องเพลง หรือถ่ายภาพเฉพาะบุคคลหรือภาพหมู่
3.2) ผู้ที่ขับรถด้วยตนเอง และผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางเป็นสมาชิกในครอบครัว โดยไม่มีผู้โดยสารคนอื่นร่วมเดินทางด้วย
3.3) ในระหว่างการประกอบภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการชี้แจง เช่น การไลฟ์สด การบันทึกวีดิทัศน์ การทำหน้าที่เป็นพิธีกร รายงานข่าว กล่าวปราศรัย แสดงสุนทรพจน์ หรือการบรรยายข้อมูลเชิงวิชาการ หรือการถ่ายภาพในระหว่างกิจกรรมอย่างเป็นทางการ เป็นต้น
3.4 ) เมื่อเข้าสู่สถานที่หรือประกอบกิจกรรม ที่อาจทำให้หน้ากากอนามัยเกิดความชื้นได้ เช่น การแช่น้ำพุร้อน / น้ำพุเย็น การอบซาวน์น่า การเข้าใช้บริการธาราบำบัด หรือกิจกรรมทางน้ำ เป็นต้น
4. หากจำเป็นต้องรับประทานอาหารในระหว่างที่อยู่นอกเคหสถาน สามารถถอดหน้ากากอนามัยออกได้
5. สำหรับกิจกรรมภายในอาคารที่ได้รับการกำหนดโดย CECC หรือหน่วยงานตรง หากสอดคล้องต่อมาตรการการป้องกันโรคระบาดที่กำหนดโดย CECC หรือหน่วยงานที่มีอำนาจโดยตรง สามารถถอดหน้ากากอนามัยออกได้ชั่วคราว
6. ภายในร้านอาหารหรือโรงแรม : ยกเลิกระเบียบซึ่งห้ามการคารวะชาหรือสุราตามโต๊ะต่างๆ ในระหว่างงานการจัดงานเลี้ยง
CECC ขอเตือนว่า ประชาชนที่ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการติดเชื้อง่าย มีภาวะโรคเรื้อรังหรือเป็นไข้ หรือผู้ที่ติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดเมื่อเข้าสู่พื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น พร้อมนี้ CECC ยังขอให้ประชาชนร่วมตระหนักว่า ทุกคนล้วนมีภาระหน้าที่รับผิดชอบด้านการป้องกันโรคระบาด จึงขอให้ประชาชนร่วมให้ความเคารพต่อมาตรการป้องกันโรคระบาด รักษาสุขอนามัย ปกป้องตนเองและผู้อื่น ตลอดจนร่วมรักษาความปลอดภัยในชุมชน นอกจากนี้ CECC ยังได้เรียกร้องให้ประชาชนที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด – 19 เร่งทำการลงทะเบียนเข้ารับบริการโดยเร็ววัน เพื่อปกป้องสุขภาพของตนเองและคนรอบข้าง
นอกจากนี้ CECC ยังประกาศอีกว่า นับตั้งแต่เวลา 0.00 น.ของวันที่ 10 ธ.ค. (ตามตารางเวลาของเที่ยวบินที่เดินทางถึงไต้หวัน) เป็นต้นไป จะยกเลิกการจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวัน
เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ติดต่อกัน โดยภายในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ระหว่างวันที่ 21 – 27 พ.ย. ที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางมาจากต่างประเทศ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 281 ราย ลดลงจากเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 12.2% ประกอบกับผู้ป่วยยืนยันภายในประเทศมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง เมื่อพิจารณาถึงช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้เวียนมาถึง CECC คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้า - ออกประเทศเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ จึงขอยกเลิกการจำกัดจำนวนคนที่จะเดินทางเข้าสู่ประเทศ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ภาคประชาชนในการวางแผนการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวที่จะถึงนี้
CECC ขอเรียกร้องว่า ผู้โดยสารขาเข้าต้องให้ความร่วมมือต่อการผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง ด้วยการรับชุดตรวจเชื้อโควิด – 19 ด้วยตนเอง จำนวน 4 ชุด และต้องทำการตรวจคัดกรองด้วยตนเองในระหว่างการสังเกตอาการตนเองเป็นระยะเวลา 7 วัน หากมีอาการต้องสงสัยก่อนการเดินทางเข้าสู่เขตอาณาไต้หวัน 14 วัน ต้องรายงานต่อเจ้าหน้าที่ CECC ที่ประจำอยู่ในท่าอากาศยานหรือเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองโรคระบาด ณ บริเวณท่าเรือ/ท่าอากาศยาน โดยเจ้าหน้าที่จะทำการประเมินด้วยการตรวจคัดกรอง และจัดให้โดยสารรถป้องกันโรคโควิด – 19 ต่อไป
หลังจากนี้ CECC จะทำการพิจารณาและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากมีความจำเป็นจะทำการปรับเปลี่ยนมาตรการที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม จึงขอให้ประชาชนร่วมให้ความเคารพต่อกฎระเบียบด้านการป้องกันโรคระบาด ทั้งนี้ เพื่อร่วมรักษาความปลอดภัยของชุมชนในประเทศ ตลอดจนก้าวสู่วิถีชีวิตตามปกติในเร็ววัน