ทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 14 ก.พ. 66
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมาประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ Ms. Rossana Briceño ภริยาของนายกรัฐมนตรีแห่งเบลีซ และทูตพิเศษด้านสิทธิสตรีและเด็ก พร้อมกล่าวว่า ไต้หวัน - เบลีซ เป็นประเทศพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน จึงคาดหวังที่จะมุ่งมั่นเสริมสร้างเศรษฐกิจที่มีความทรหดในยุคหลังโควิด – 19 ตลอดจนร่วมอุทิศคุณประโยชน์ด้านความเจริญรุ่งเรือง สันติภาพและเสถียรภาพให้เกิดแก่ภูมิภาคต่อไป
เริ่มต้น ปธน.ไช่ฯ กล่าวต้อนรับคณะตัวแทนที่เดินทางมาเยือนทำเนียบประธานาธิบดี โดยปธน.ไช่ฯ ได้หวนย้อนไปถึงเมื่อช่วงเดือนมีนาคมของปีที่แล้ว Mr. John Briceño นายกรัฐมนตรีแห่งเบลีซ ได้นำคณะตัวแทนเดินทางมาเยือนไต้หวัน โดย Ms. Rossana ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกคณะตัวแทนครั้งนั้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างเกิดความประทับใจที่ดีต่อกัน โดย “การประชุมนานาชาติด้านการส่งเสริมสิทธิสตรีในภูมิภาคลาตินอเมริกาและพื้นที่แถบทะเลแคริบเบียน” ที่มีกำหนดการจัดขึ้นในวันที่ 15 ก.พ. นี้ พวกเราจะร่วมเป็นสักขีพยานในการแบ่งปันผลสัมฤทธิ์ด้านการส่งเสริมสิทธิสตรี ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างไต้หวัน – เบลีซ ตลอดช่วงที่ผ่านมา
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า Ms. Rossana มุ่งจับตาให้ความสำคัญต่อประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสตรีและเด็ก รวมถึงการศึกษามาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ Ms. Rossana ได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการตรวจสอบ “โครงการส่งเสริมสิทธิสตรี” ระหว่างไต้หวัน - เบลีซ ซึ่งภายในระยะเวลา 1 ปีกว่าที่ได้มีการดำเนินภารกิจตามโครงการข้างต้น ได้มีการจัดกิจกรรมการฝึกอบรมทางวิชาชีพและการแนะแนวด้านการประกอบธุรกิจหลายครั้ง เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มสตรีมีศักยภาพในการพึ่งพาตนเองอย่างเต็มภาคภูมิ
นอกจากนี้ นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา Ms. Rossana ก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานหมุนเวียน “พันธมิตรกลุ่มภริยาผู้นำประเทศในทะเลแคริบเบียน” ซึ่งมีหน้าที่ในการบูรณาการทรัพยากรจากทุกแวดวง เพื่อยกระดับสิทธิประโยชน์ของสตรีและเด็กในภูมิภาคทะเลแคริบเบียน
ปธน.ไช่ฯ แสดงความเห็นว่า หลายปีมานี้ การแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน - เบลีซ นับวันยิ่งเป็นไปในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ “ความตกลงทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ระหว่างไต้หวัน - เบลีซ” ได้มีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคมของปีที่แล้ว ผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายก็ได้ร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยการจัดซื้อกุ้งมังกรมูลค่ากว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคมของปีที่แล้ว คณะสำรวจโอกาสธุรกิจของไต้หวันก็ได้เดินทางเยือนเบลีซ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในเชิงลึกกับกลุ่มผู้ประกอบการเบลีซในด้านการจัดซื้ออาหารทะเลและสินค้าอาหารแปรรูป เป็นต้น เชื่อว่า ภายใต้การสนับสนุนของ Ms. Rossana และนรม. Briceño ทั้งสองประเทศจะมุ่งไปสู่ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความผาสุกที่เพิ่มพูนให้แก่ภาคประชาชนสองประเทศต่อไป
ปธน.ไช่ฯ ในฐานะตัวแทนของภาคประชาชนได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลเบลีซ ที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในเวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมของปีที่แล้ว นรม. Briceño ได้ชักจูงให้คณะรัฐมนตรี ร่วมลงมติเห็นชอบต่อญัตติที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน เพื่อให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมองค์การระหว่างประเทศ แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันเหนียวแน่นระหว่างสองประเทศ
โดยในช่วงเที่ยงของวันเดียวกันนั้น นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้จัดงานเลี้ยงรับรองเพื่อให้การต้อนรับ Ms. Rossana Briceño ภริยาของนายกรัฐมนตรีแห่งเบลีซ และทูตพิเศษด้านสิทธิสตรีและเด็ก ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธาน “พันธมิตรกลุ่มภริยาผู้นำประเทศในทะเลแคริบเบียน” (SCLAN) และ Ms. Roanna Carballo ผู้อำนวยการสำนักงานทูตพิเศษ ที่ร่วมเดินทางมาเยือนไต้หวัน เพื่อเข้าร่วม “การประชุมนานาชาติด้านการส่งเสริมสิทธิสตรีในลาตินอเมริกาและทะเลแคริบเบียน”
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า Ms. Rossana ได้ตอบรับคำเชิญของรัฐบาลไต้หวันเดินทางมาเยือนไต้หวันอีกครั้ง ต่อเนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคมของปีที่แล้ว ที่เดินทางมาพร้อมนรม. Briceño เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมแบ่งปันสถานการณ์ความคืบหน้าและผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญด้านการส่งเสริมสิทธิสตรีและการผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังยุคโควิด – 19 ที่ร่วมเสนอโดยรัฐบาลของสองประเทศ โดยรมว.อู๋ฯ ได้ยกย่อง Ms. Rossana สำหรับความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างระบบการศึกษาในเบลีซและสิทธิสตรีและเด็กมาเป็นระยะเวลานาน พร้อมทั้งยังได้ยื่นเสนอแนวคิดด้านศักยภาพทางเศรษฐกิจของกลุ่มสตรีด้วยการพึ่งพาตนเอง การเข้ารับการศึกษาอย่างเท่าเทียมของสตรี และการต่อต้านความรุนแรงทางเพศ ซึ่ง Ms. Rossana ถือเป็นผู้นำสำคัญด้านการส่งเสริมสิทธิสตรีและเด็ก เชื่อว่า Ms. Rossana จะมุ่งมั่นผลักดันสิทธิสตรีและเด็กในระดับภูมิภาคต่อไป รมว.อู๋ฯ จึงได้ใช้โอกาสนี้ร่วมแสดงความขอบคุณต่อ Ms. Rossana สำหรับการสนับสนุน “โครงการให้ความช่วยเหลือด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการส่งเสริมสิทธิสตรีในลาตินอเมริกาและทะเลแคริบเบียน ยุคหลังโควิด - 19” ที่ประสานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไต้หวัน - เบลีซ นับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2021 เป็นต้นมา โดย Ms. Rossana ได้ทำหน้าที่เป็นกรรมการตรวจสอบในคณะกรรมการที่ปรึกษาของโครงการข้างต้น เพื่อส่งเสริมและให้ความช่วยเหลือกลุ่มสตรีเบลีซเข้าร่วมในกลไกการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงคุณประโยชน์อันยอดเยี่ยมที่อุทิศโดยพลังสตรี
Ms. Rossana กล่าวขอบคุณรัฐบาลไต้หวันสำหรับคำเชิญให้เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ โดย Ms. Rossana จะร่วมแบ่งปันแนวทางการเสริมสร้างความเสมอภาคทางเพศของรัฐบาลเบลีซในระหว่างการประชุม พร้อมกันนี้ Ms. Rossana ก็ได้ยกย่องคุณประโยชน์ด้านความเสมอภาคทางเพศที่ไต้หวันมุ่งมั่นพัฒนาเสมอมา โดยหวังที่จะเสริมสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนกับไต้หวันในด้านที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ภาคประชาชนอย่างยั่งยืน
Ms. Rossana มีกำหนดการเดินทางมาถึงไต้หวันเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 ก.พ. โดยจะพำนักอยู่ในไต้หวันเป็นระยะเวลา 4 วัน จนถึงวันที่ 17 ก.พ. นี้