ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 15 ก.พ. 66
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “พิธีเปิดการประชุมพลังสตรีในลาตินอเมริกาและทะเลแคริบเบียน” โดยปธน.ไช่ฯ คาดหวังที่จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์ และร่วมอภิปรายหารือในแนวทางการเปิดบริบททางความร่วมมือระหว่างประเทศในอนาคต ภายใต้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันนี้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของสตรี ตลอดจนเป็นการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด – 19 ควบคู่กันไป
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ไต้หวันมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความเสมอภาคทางเพศอย่างเป็นรูปธรรมเสมอมา โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ก้าวผ่านอุปสรรคความท้าทายนานาประการ ในปี 2019 ไต้หวันก้าวสู่ประเทศแรกในภูมิภาคที่ได้มีการผ่านกฎหมายว่าด้วยการสมรสของบุคคลเพศเดียวกันอย่างเป็นทางการ
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า ในด้านการเมือง เมื่อปี 2022 สัดส่วนการเข้ามีส่วนร่วมในภารกิจทางการเมืองของสมาชิกสภาที่เป็นผู้หญิงมีอัตราที่สูงขึ้นกว่าร้อยละ 40 ถือเป็นสัดส่วนที่ครองอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย ในแง่ของเศรษฐกิจ ตามรายงานสถิติในปี 2022 ผู้ประกอบการรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เป็นผู้หญิง ก็มีอัตราที่สูงถึงร้อยละ 37 จึงอาจกล่าวได้ว่า ผู้หญิงเป็นพลังสำคัญในการสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมไต้หวันในหลากหลายแง่มุม
ปธน.ไช่ฯ แถลงว่า ไต้หวันเป็นหนึ่งในสมาชิกของประชาคมโลกที่มีความรับผิดชอบ ซึ่งพร้อมที่จะประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันและองค์การระหว่างประเทศอย่างกระตือรือร้น เพื่อร่วมผลักดันความเสมอภาคทางเพศและสิทธิสตรีระดับสากล นอกจากนี้ ไต้หวันและประเทศพันธมิตร รวมถึงอีกหลายประเทศ ยังได้ร่วมจัดการประชุมสัมมนาแบบข้ามแวดวง ภายใต้กรอบความร่วมมือ “Global Cooperation and Training Framework (GCTF) ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเพศสถานะ อย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ พวกเรายังได้ประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศพันธมิตร ให้ความช่วยเหลือกลุ่มสตรีในการเสริมสร้างทักษะทางวิชาชีพ รวมไปถึงจัดตั้งช่องทางการให้คำปรึกษาและส่งมอบทรัพยากรด้านการประกอบธุรกิจ เพื่อส่งเสริมและให้กำลังใจแก่กลุ่มเป้าหมายในการสานฝันให้เป็นจริง โดยโครงการข้างต้นเหล่านี้มีส่วนช่วยในการส่งเสริมให้กลุ่มสตรีมีศักยภาพในการพึ่งพาตนเองอย่างเต็มภาคภูมิ ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณสมบัติในการประกอบอาชีพ ยิ่งไปกว่านั้น ยังถือเป็นการสร้างผลงาน ความเชื่อมั่นและความกล้าหาญที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น อันจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของพวกเขาให้มุ่งสู่ทิศทางที่ดียิ่งขึ้น
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า กลุ่มประเทศพันธมิตรในภูมิภาคลาตินอเมริกาและพื้นที่แถบทะเลแคริบเบียน ที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ล้วนมีประสบการณ์ในการผลักดันโครงการความร่วมมือกับไต้หวันอย่างใกล้ชิด ซึ่งบังเกิดเป็นผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญที่นำเสนอออกมาในครั้งนี้ ปธน.ไช่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นพวกเราร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเวทีการประชุมครั้งนี้ และร่วมอภิปรายหารือกันถึงแนวทางการเปิดบริบททางความร่วมมือระหว่างประเทศในอนาคต ภายใต้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันนี้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของสตรี ตลอดจนเป็นการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด – 19 ควบคู่กันไป