20/05/2024

Taiwan Today

การเมือง

ปธน.ไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปีความสัมพันธ์ไต้หวัน – เอสวาตินี และวันเฉลิมพระชนมพรรษา 55 พรรษา สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 ตามแผน “ร่วมฉลองมิตรภาพและส่งเสริมความร่วมมือที่ยั่งยืน”

07/09/2023
ปธน.ไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปีความสัมพันธ์ไต้หวัน – เอสวาตินี และวันเฉลิมพระชนมพรรษา 55 พรรษา สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 ตามแผน “ร่วมฉลองมิตรภาพและส่งเสริมความร่วมมือที่ยั่งยืน” (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 7 ก.ย. 66
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่นในเอสวาตินี ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางเยือนสนามกีฬา Somhlolo National Stadium เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 55 ปีที่ไต้หวัน – เอสวาตินี สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน และเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 ที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 55 พรรษา ตามแผน “ร่วมฉลองมิตรภาพและส่งเสริมความร่วมมือที่ยั่งยืน”
 
ปธน.ไช่ฯ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกล่าวปราศรัย โดยได้กล่าวแสดงคำอวยพรต่อประชาชนชาวเอสวาตินี เนื่องในวันสำคัญของประเทศเอสวาตินี โดยปธน.ไช่ฯ ระบุว่า หลังจากวันนี้ในปีค.ศ. 1968 สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในประเทศพันธมิตรของราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ที่ได้ทำการประกาศอิสรภาพอย่างเป็นทางการ จึงจะเห็นได้ว่า ประวัติศาสตร์เชื่อมโยงพวกเราเข้าไว้ด้วยกัน มิตรภาพอันแสนอบอุ่นและพลังแห่งความดีของทั้งสองประเทศ เป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเราอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาเป็นเวลานานกว่า 55 ปี
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 55 ปีมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้ดำเนินไปในทิศทางเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 ที่สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 (H.M. King Mswati Ⅲ) ขึ้นครองราชย์เป็นต้นมา ได้มีการนำคณะตัวแทนเดินทางเยือนไต้หวัน 18 ครั้ง ปธน.ไช่ฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ให้การต้อนรับสมเด็จฯ ในไต้หวันบ่อยครั้ง โดยปธน.ไช่ฯ ยังจำได้ว่า ครั้งที่แล้วที่สมเด็จฯ เดินทางเยือนไต้หวัน ได้แสดงทรรศนะว่า ไต้หวันเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของพระองค์  ซึ่งปธน.ไช่ฯ ก็รู้สึกไม่ต่างกัน เมื่อได้มีโอกาสมาเยือนเอสวาตินี
 
ปธน.ไช่ฯ ยังได้ย้อนรำลึกความทรงจำเมื่อครั้งเดือนเมษายน ปี 2018 ที่ปธน.ไช่ฯ ได้เดินทางเยือนเอสวาตินีเป็นครั้งแรก การต้อนรับแสนอบอุ่นและความปิติยินดีที่ได้รับจากภาคประชาชนชาวเอสวาตินีในครั้งนี้ ไม่ต่างจากครั้งก่อนเลย การเดินทางมาเยือนประเทศที่สวยงามอีกครั้งหลังจากที่เวลาล่วงเลยผ่านไป 5 ปี ปธน.ไช่ฯ ประจักษ์ถึงการเติบโตและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในเอสวาตินี จึงเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจต่อความสำเร็จและการเอาชนะอุปสรรคทุกประการ อันเกิดจากการประสานความร่วมมือระหว่างสมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 และภาคประชาชน
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า หลังจากก้าวผ่านประสบการณ์ในอดีต พวกเรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นประเทศพันธมิตรสำคัญของเอสวาตินี ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนตลอดระยะเวลา 50 กว่าปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและการพัฒนาระหว่างสองประเทศ ความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้เข้าถึงในพื้นที่ชนบท ประสบความสำเร็จ จนทำให้เอสวาตินีก้าวสู่การเป็นประเทศที่ 2 ในทวีปแอฟริกาที่มีอัตราการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าสูงที่สุด จำนวนประชาชนกว่าร้อยละ 82 ในประเทศ สามารถเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมั่นคงปลอดภัย สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่จัดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ โดยระบุว่า ในปัจจุบันนี้ พวกเราสามารถเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าได้ในทุกครัวเรือน “ทุกอย่างอยู่ภายใต้แสงที่สว่างไสว”
 
ปธน.ไช่ฯ แสดงทรรศนะว่า ในฐานะที่เป็นประเทศพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกัน พวกเรามีเป้าหมายในอนาคตที่คล้ายคลึงกัน นั่นก็คือการมุ่งมั่นในภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและเยาวชน ซึ่งเป็นรากฐานของสังคมในภาพรวม ปธน.ไช่ฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่เห็นว่า มีนักศึกษาชาวเอสวาตินีจำนวนมากที่เข้าศึกษาต่อในสถาบันระดับอุดมศึกษาของไต้หวัน โดยสาขาวิชาที่นักศึกษาเอสวาตินีเลือกเรียน ครอบคลุมในหลากหลายด้าน อาทิ การเกษตร การศึกษา การบริหาร และการแพทย์ เป็นต้น ปธน.ไช่ฯ คาดหวังที่จะเห็นบรรดานักศึกษาเหล่านี้อุทิศคุณประโยชน์ที่ตนสั่งสมมา หลังสำเร็จการศึกษาจากไต้หวัน เพื่อเป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติของตนต่อไป ซึ่งพวกเราจะมุ่งให้ความช่วยเหลือฝึกอบรมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางรุ่นใหม่สืบต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ความเสมอภาคทางเพศและการเสริมสร้างศักยภาพสตรี เป็นอีกประเด็นที่ปธน.ไช่ฯ ให้ความสำคัญ ที่ผ่านมา H.M. Queen Mother Ntombi Tfwala สมเด็จพระบรมราชชนนี ได้มุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของกลุ่มสตรีในเอสวาตินี ด้วยเหตุนี้ ไต้หวัน – เอสวาตินี จึงได้ร่วมลงนาม “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของกลุ่มสตรี” เมื่อปี 2019 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มสตรีได้รับทุนสนับสนุนทางการเงินที่จำเป็นได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ในด้านนี้ ไต้หวันจึงได้ช่วยเหลือจัดตั้ง “กองทุนหมุนเวียนสินเชื่อขนาดเล็ก (micro credit) สำหรับการประกอบธุรกิจของกลุ่มสตรี” เพื่อช่วยบรรลุวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระบรมราชชนนี ที่ต้องการจะยกระดับสถานภาพของกลุ่มสตรีภายในประเทศ
 
ปธน.ไช่ฯ ยังได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลเอสวาตินี ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ อย่างหนักแน่นเสมอมา โดยสมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 ได้ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในองค์การระหว่างประเทศ บนเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ Mr. Cleopas Dlamini นายกรัฐมนตรีเอสวาตินี ก็ร่วมทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในเวทีนานาชาติอยู่บ่อยครั้ง
 
สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 กล่าวขณะปราศรัยว่า กิจกรรมการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่ทำให้พวกเราได้ทบทวนพัฒนาการของประเทศชาติ นับตั้งแต่ที่ได้มีการประกาศเอกราชเป็นต้นมา สมเด็จฯ ย้อนรำลึกว่า หลังจากที่ข้าพเจ้าขึ้นครองราชย์ในปีค.ศ. 1986 เป็นต้นมา ก็ได้ให้คำมั่นว่าจะมุ่งธำรงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของเอสวาตินี ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการพัฒนาของเอสวาตินีในด้านต่างๆ ซึ่งตราบจนปัจจุบัน สิ่งที่มีค่ามากที่สุดของเอสวาตินี ก็คือสันติภาพ  โดยหลังจากนี้ เอสวาตินีจะมุ่งมั่นประสานความร่วมมือกับสหประชาชาติ  พันธมิตรแอฟริกาและมิตรประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอื่นๆ เพื่อมุ่งบรรเทาปัญหาต่างๆในภูมิภาค ควบคู่ไปกับการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในทวีปแอฟริกา ตลอดจนสรรค์สร้างทวีปแอฟริกาให้เกิดความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

ประเด็นร้อน

ประเด็นล่าสุด