กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 11 ก.ย. 66
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ “ทีมวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน” ที่นำโดย Dr. Matsuda Yasuhiro ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว (University of Tokyo) โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมแลกเปลี่ยนกันในประเด็นต่างๆ อาทิ สถานการณ์ล่าสุดของช่องแคบไต้หวัน ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ประสบการณ์การรับมือกับข่าวปลอมและสงครามจิตวิทยาที่จีนเป็นผู้ก่อขึ้น รวมไปถึงประเด็นความขัดแย้งที่เกิดจากการที่รัฐบาลจีนประกาศแผนที่เชิงยุทธศาสตร์ฉบับล่าสุดเมื่อช่วงที่ผ่านมา และการข่มขู่ด้วยกำลังทหารของจีนที่มีต่อไต้หวัน เป็นต้น
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า Dr. Yasuhiro และทีมวิจัย เป็นกลุ่มที่เฝ้าจับตาให้ความสำคัญต่อประเด็นด้านการเมืองของไต้หวัน ความสัมพันธ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวันและสถานการณ์ระหว่างประเทศ มาเป็นเวลานาน และเป็นหน่วยงานที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับผลงานวิจัยด้านสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจของไต้หวัน รวมไปถึงความมั่นคงในภูมิภาค ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนในประเทศ นับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ส่งเสริมให้ทุกแวดวงของญี่ปุ่น เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่น และความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน
รมว.อู๋ฯ ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ดำเนินไปในทิศทางเชิงลึกเสมอมา ทั้งสองฝ่ายได้จัดตั้งช่องทางการติดต่อประสานงานที่เป็นไปอย่างราบรื่น โดยไต้หวันจะเร่งเสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับพฤติกรรมการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนในพื้นที่ภูมิภาคโดยรอบ นอกจากนี้ ไต้หวันยังเปี่ยมด้วยประสบการณ์ในการรับมือกับสงครามจิตวิทยาที่เกิดจากจีน โดยมีหลายประเทศที่ร่วมแลกเปลี่ยนกับไต้หวันในประเด็นดังกล่าวแล้ว รมว.อู๋ฯ จึงชี้แนะให้ไต้หวัน - ญี่ปุ่น มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในเชิงลึกต่อไป
รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า เมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นไปได้ที่จีนอาจเข้ารุกรานไต้หวันด้วยกำลังทหาร ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไต้หวันได้มุ่งเสริมสร้างศักยภาพด้านกลาโหมและการฝึกอบรมเพื่อทำสงครามไร้สมมาตร อย่างขมักเขม้น ประกอบกับหลายปีมานี้ ญี่ปุ่นได้เร่งพัฒนาและจัดตั้งฐานทัพทหารในหมู่เกาะตะวันตกเฉียงใต้อย่างกระตือรือร้น นอกจากนี้ สหรัฐฯ ออสเตรเลียและฟิลิปปินส์ ก็มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือทางการทหารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาตรการเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สามารถสกัดกั้นเจตนารมณ์ในการก่อสงครามจากจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สมาชิกทีมวิจัยฯ ดังกล่าว นอกจากจะแสดงความขอบคุณต่อรมว.อู๋ฯ สำหรับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นแล้ว ยังระบุว่า จากการแลกเปลี่ยนกันในครั้งนี้ ยังทำให้พวกเขาเกิดความเข้าใจต่อความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ สถานการณ์ล่าสุดในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก และบทบาทของไต้หวันในนโยบายความสัมพันธ์ต่อจีนของสหรัฐฯ และการเดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ยังทำให้ได้รับข้อคิดดีๆ มากมาย เชื่อว่าในอนาคต ทีมวิจัยฯ จะช่วยส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในญี่ปุ่น เกิดความเข้าใจต่อความสำคัญด้านความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน และภัยคุกคามในภูมิภาคที่เกิดจากพฤติกรรมของจีน ได้อย่างถ่องแท้มากยิ่งขึ้น