ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 14 มี.ค. 65
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 มี.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงกลางวันเนื่องในวันสตรีสากลที่ร่วมกันจัดโดยผู้แทนทางการทูตประจำไต้หวัน พร้อมระบุว่า ไต้หวันได้ประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันในการจัดตั้งกลไกความร่วมมือ เพื่อบรรลุหลักการความเสมอภาคทางเพศ โดยกิจกรรมใน “สัปดาห์แห่งความเสมอภาคทางเพศของไต้หวัน” แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนการส่งเสริมสิทธิสตรี ปธน.ไช่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสรรค์สร้างโลกที่ไร้ซึ่งการดูหมิ่นเหยียดหยามซึ่งกันและกัน ตลอดจนคาดหวังที่จะประสานความร่วมมืออย่างแนบแน่นกับพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันต่อไป
ในช่วงเริ่มต้น ปธน.ไช่ฯ กล่าวขอบคุณเป็นภาษาอังกฤษต่อ Ms. Jasmine Elise Huggins เอกอัครราชทูตเซนต์คิตส์และเนวิสประจำไต้หวัน และ Ms. Jenny Bloomfield ผู้แทนรัฐบาลออสเตรเลียประจำไต้หวัน ที่ร่วมเป็นประธานในการจัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าวันสตรีสากลจะผ่านไปแล้วในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว แต่ปธน.ไช่ฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มาร่วมฉลองกับทุกคนในวันนี้ โดยปธน.ไช่ฯ ยังได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่เป็นต้นแบบของผู้หญิงแกร่งในทุกพื้นที่ทั่วโลกทั้งในไต้หวันและระดับโลก
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า เนื่องด้วยความกล้าหาญและความมุ่งมั่นพยายามของทุกคน ประกอบกับการสนับสนุนของพันธมิตรในประชาคมโลก ไต้หวันได้ก้าวสู่การเป็นประเทศผู้นำในการกระตุ้นความเสมอภาคทางเพศและการส่งเสริมสิทธิสตรี ซึ่งสามารถขึ้นครองอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียและอันดับ 6 ในโลก
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า ไต้หวันและออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ร่วมจัดตั้งกลไกความร่วมมืออย่างกระตือรือร้น อาทิ “กองทุนเอเปคเพื่อการส่งเสริมบทบาทสตรีในระบบเศรษฐกิจ” “โครงการ 2X Women's Initiative” เพื่อมุ่งมั่นในการบรรลุหลักการความเสมอภาคทางเพศ หลายปีมานี้ ไต้หวันยังได้ร่วมจัดการประชุมสัมมนาระดับนานาชาติในประเด็นการส่งเสริมสิทธิสตรีกับสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ภายใต้กรอบความร่วมมือ Global Cooperation and Training Framework (GCTF)
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า พวกเราไม่เพียงแต่ซึมซับประสบการณ์จากต่างประเทศ ยังมีความยินดีเป็นอย่างมากที่จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์ให้แก่ประชาคมโลก โดยกิจกรรมใน “สัปดาห์แห่งความเสมอภาคทางเพศของไต้หวัน” ” แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนการส่งเสริมสิทธิสตรี และเพื่อเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ส่งเสริมให้ทุกคนรับทราบเกี่ยวกับความสำคัญของความเสมอภาคทางเพศและความยุติธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาที่ยั่งยืน และลำดับความสำคัญอื่นๆ ที่มีร่วมกัน
ปธน.ไช่ฯ แสดงความคิดเห็นว่า ในยุคสมัยที่เปี่ยมด้วยความท้าทายเช่นนี้ กลุ่มสตรียังคงใช้คุณสมบัติด้านความกล้าหาญและความยืดหยุ่นในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน ความสำเร็จที่ได้มาท่ามกลางสถานการณ์ที่สวนกระแส ถือเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการทำลายกรอบจำกัดทางเพศสถานะ ด้วยเหตุนี้ ปธน.ไช่ฯ จึงส่งเสริมให้ทุกคนให้การสนับสนุนกิจกรรม “ทำลายกรอบจำกัดทางความคิดแบบดั้งเดิม” (#BreakTheBias) โดยพวกเราสามารถสรรค์สร้างโลกที่ไร้ซึ่งการดูหมิ่นเหยียดหยามซึ่งกันและกัน บนโลกใบนี้ สิ่งที่จะใช้ตัดสินโอกาสและเส้นทางในชีวิตของคนเราต้องขึ้นอยู่กับความสามารถและวุฒิภาวะ มิใช่จากเพศสถานะ
ในท้ายนี้ ปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อกลุ่มพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันที่ให้การสนับสนุนไต้หวันที่ได้มุ่งมั่นในการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ และคาดหวังที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในเชิงลึกยิ่งขึ้นในอนาคต