02/05/2024

Taiwan Today

การเมือง

ปธน.ไช่ฯ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดวิสัยทัศน์ด้านพลังงาน ปี 2020

13/11/2020
ปธน.ไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วม “การประชุมสุดยอดวิสัยทัศน์ด้านพลังงาน ปี 2020” พร้อมกล่าวปราศรัย (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของปีที่แล้วจนถึงปีนี้ สัญญาณไฟเตือนระบบควบคุมเสถียรภาพของการจ่ายกระแสไฟฟ้า คงที่อยู่ในระดับสัญญาณไฟเขียว ซึ่งหมายถึงมีเสถียรภาพสูง อย่างต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 1 ปีเต็ม ก้าวสำคัญแห่งการพัฒนาในครั้งนี้ เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การยกระดับด้านพลังงานเป็นในทิศทางที่ถูกต้อง

เพื่อบรรลุเป้าหมายในการยกระดับด้านพลังงาน รัฐบาลไต้หวันได้ตั้งหมายเป้าไว้ว่าภายในปี 2025 ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตด้วยพลังงานสีเขียวของไต้หวัน จะต้องมีสัดส่วนร้อยละ 20 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ฟาร์มกังหันลมแห่งแรกของไต้หวันก็ได้เข้าสู่การดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในด้านการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ในไต้หวันมีการติดตั้งเพิ่มขึ้น จากระดับ 1.25 Gigawatts (GW) ในปี 2016 มาเป็น 4.89 GW ในเดือนสิงหาคมปี 2020 โดยปริมาณการจ่ายไฟก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.1 พันล้านยูนิต เพิ่มเป็น 4 พันล้านยูนิต ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า พวกเรามีการดำเนินการในด้านการพัฒนาพลังงานสีเขียวรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
-------------------------------------------

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 11 พ.ย. 63

 

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “การประชุมสุดยอดวิสัยทัศน์ด้านพลังงาน ปี 2020” โดยได้ชี้แจงถึงเป้าหมายการยกระดับด้านพลังงานของไต้หวัน พร้อมเน้นย้ำว่า ในอนาคตไต้หวันจะทยอยดำเนินการตรวจสอบการผลิตในห่วงโซ่อุปทานพลังงานสีเขียวภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งนำเอาเทคโนโลยีและประสบการณ์ของประเทศที่มีความทันสมัยในด้านพลังงานสีเขียว และการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรจากนานาชาติ มาใช้ในการก้าวเข้าการแข่งขันในเวทีนานาชาติต่อไป

 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่รัฐบาลได้ประกาศเริ่มดำเนินการยกระดับด้านพลังงานแล้ว เสถียรภาพในการจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในประเทศ ก็ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2016 ที่ปธน.ไช่ฯ เข้าดำรงตำแหน่งผู้นำไต้หวันนั้น ปริมาณไฟฟ้าสำรองของประเทศโดยยึดวันที่ 31 พ.ค. ของปีนั้นมาใช้ในการคำนวณพบว่า มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 1.64 ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดในด้านความสามารถในการจ่ายไฟในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

 

หลังจากที่ผ่านการมุ่งมั่นพยายามมานานหลายปี เมื่อฤดูร้อนของปีที่แล้ว ศักยภาพการจ่ายไฟของไต้หวันนับวันยิ่งมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของปีที่แล้วจนถึงปีนี้ สัญญาณไฟเตือนระบบควบคุมเสถียรภาพของการจ่ายกระแสไฟฟ้า คงที่อยู่ในระดับสัญญาณไฟเขียว ซึ่งหมายถึงมีเสถียรภาพสูง อย่างต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 1 ปีเต็ม ก้าวสำคัญแห่งการพัฒนาในครั้งนี้ เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การยกระดับด้านพลังงานเป็นในทิศทางที่ถูกต้อง จึงทำให้ทุกก้าวย่างเป็นไปอย่างมั่นคง จนค่อยๆ บรรลุผลตามเป้าหมายที่วางเอาไว้

 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้ รัฐบาลได้เป็นสื่อกลางที่ทำให้ภาคเอกชนเริ่มมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดกันมากขึ้น โดยในจำนวนนี้บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ได้สร้างคุณประโยชน์ที่เด่นชัดมากที่สุด หลังจากที่ฟาร์มกังหันลมก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2025 บริษัท TSMC จะทำการซื้อพลังงานสีเขียวที่ได้จากฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งของบริษัทเออร์สเตด (Orsted) ในปริมาณ 920 MW ต่อปี ซึ่งนี่ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด

 

ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายในการยกระดับด้านพลังงาน รัฐบาลไต้หวันได้ตั้งหมายเป้าไว้ว่าภายในปี 2025 ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตด้วยพลังงานสีเขียวของไต้หวัน จะต้องมีสัดส่วนร้อยละ 20 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ฟาร์มกังหันลมแห่งแรกของไต้หวันก็ได้เข้าสู่การดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยฟาร์มกังหันลมแห่งนี้ได้ดึงดูดให้คณะผู้แทนจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เดินทางมาศึกษาดูงานในไต้หวันกันอย่างคับคั่ง นับเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของพัฒนาการด้านฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งของไต้หวัน ที่ถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของภูมิภาคเอเชียเลยทีเดียว

 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวอีกว่า ในด้านการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ในไต้หวันมีการติดตั้งเพิ่มขึ้น จากระดับ 1.25 Gigawatts (GW) ในปี 2016 มาเป็น 4.89 GW ในเดือนสิงหาคมปี 2020 โดยปริมาณการจ่ายไฟก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.1 พันล้านยูนิต เพิ่มเป็น 4 พันล้านยูนิต ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า พวกเรามีการดำเนินการในด้านการพัฒนาพลังงานสีเขียวรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

 

ในตอนท้าย ปธน.ไช่ฯ อวยพรให้การประชุมในครั้งนี้สำเร็จลงอย่างราบรื่น พร้อมกำชับให้ทุกภาคส่วนร่วมระดมความคิดในการแสวงหาความเป็นไปได้ที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อการยกระดับด้านพลังงานของไต้หวันในอนาคตต่อไป

ประเด็นร้อน

ประเด็นล่าสุด